๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๐

คงถึงเวลาแล้ว

วันนี้ลูกลุงเยี่ยมไปวัด และกลับมาด้วยอาการอิ่มบุญ เนื่องเพราะ เคยถวายหนังสือ "กรรมฐาน 40" ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ให้แด่หลวงพ่อตัด วัดชายนา ต่อมา คุณตาที่ดูแลบาตรตะกรุด เห็นหน้าลูกลุงเยี่ยม ก็ยิ้มหวาน บอกว่า หลวงพ่อท่านเอาหนังสือเล่มดังกล่าวไปให้ตา แล้วบอกว่า "เอ้า ถ้าจะปฏิบัติก็อ่านเล่มนี้" คุณตาจึงมาสอบถาม ว่าไปซื้อที่ไหน ราคาเท่าไหร่ จะฝากซื้อ ลูกลุงเยี่ยมเลยบอกว่า ซื้อมาจาก กทม. ถ้าหลวงพ่อว่าดี หนูจะเอามาถวายหลวงพ่อเอง ตอนหลังตาบอกว่า เอามาสัก 5 เล่มก่อน

วันนี้ลูกลุงเยี่ยมจึงหอบหนังสือเกือบ 10 เล่ม (ทั้งหมดเป็นหนังสือธรรมะ) ไปถวายหลวงพ่อ และเรียนสอบถามถึงเรื่องโน้นนี้อีกเล็กน้อย พอชื่นใจ หลวงพ่อท่านรับหนังสือทั้งหมดไปเปิดดู พิจารณาทุกเล่ม อย่างพออกพอใจ ถามท่านว่า "ถวายหนังสืออย่างนี้ จัดเป็นสังฆทานได้ไหมเจ้าคะ" ท่านเมตตาตอบว่า "ได้สิ" แล้วก็ท่องคำสวดถวายสังฆทานให้ลูกลุงเยี่ยมฟังด้วย

วันนี้มีคนมารอกราบหลวงพ่อราวๆ 10 กว่าคน ตอนท่านฉันเพลเสร็จแล้ว มีคณะหนึ่ง มาจากโคราช ได้แต่นั่งเงียบเรียบร้อย พอหลวงพ่อรับของที่ภวาย และฟังกิจธุระของผู้มีธุระแล้ว ท่านก็จัดสบง จีวร เตรียมตัวออกเดินทางไปกิจนิมนต์ที่แม่กลอง เหมือนท่านจะรอให้ญาตโยมที่มาจากโคราชเรียนท่าน ว่าต้องการอะไร แต่ชาวคณะก็ยังเงียบ จนหลวงพ่อบอกว่า "เอ้า นั่นน่ะ มาทำไมกันล่ะ" คณะโคราชจึงตอบว่า ขอให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์ ท่านจึงบอก "เอ้า แล้วก็ไม่บอก ข้าฯ จะไปอยู่แล้วเนี่ย" ว่าแล้วก็เดินฉับๆๆ หยิบขันน้ำมนต์ พรมๆ ญาตโยมจนชุ่มชื่นโดยทั่วกัน ลูกลุงเยี่ยมได้มีโอกาสเช็คพื้น ซึ่งเปียกแฉะหลังการรดน้ำมนต์ถวายท่านด้วย ^^

ตอนที่รอหลวงพ่อฉันเพลอยู่นั้น ได้ไปเดินชมตู้วัตถุมงคลของวัดเช่นเคย รอบนี้มีเรื่องน่าสลด ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนใจบาปหยาบช้าทำเรื่องเช่นนี้ คือนำแบ้งค์พันปลอมมาบูชาวัตถุมงคลของวัด!! เจ้าหน้าที่ท่านนำแบ้งค์ปลอมดังกล่าว ติดแสดงไว้อยู่บนตู้ โอ้ย..เจอเข้าแบบนี้ ลูกลุงเยี่ยมเดาไม่ถูกเลยว่า ระหว่างพวกปลอมตะกรุด ปลอมโค้ต กับพวกเอาแบ๊งค์ปลอมมาบูชาวัตถุมงคลไปเนี่ย ใครจะได้กรรมหนักกว่ากัน -_-"

อย่างไรก็ตาม มีข่าวล่าสุด ที่บรรดานักสะสมวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดต่างรอคอย คือเจ้าหน้าที่ที่อยู่ประจำการ ณ ตู้วัตถุมงคล ท่านได้ทำทำเนียบวัตถุมงคลของวัดแบบคร่าวๆ ไว้ดู เพื่อตอบคำถามของผู้ไปสอบถาม ลูกลุงเยี่ยมขอเมตตาท่านมาเป็นคัมภีร์ด้วย 1 ชุด แต่เท่าที่ลองอ่านๆ ดู ดูเหมือนจะยังไม่ครบถ้วน และยังมีที่ไม่สมบูรณ์อยู่บ้าง แต่ก็นับได้ว่า ชีส 2 แผ่นนี้ อาจจะเป็นเหตุให้มีการจัดทำเนียบวัตถุมงคลของวัดชายนาฉบับสมบูรณ์ต่อไป เพราะว่า...คงถึงเวลาแล้ว







ขอให้ท่านที่สนใจ และมีศรัทธา โปรดใช้กระดาษ 2 ใบนี้อย่างสร้างสรรค์นะคะ ^^

เมตตาบารมีของหลวงพ่อตัด



ชมภาพเพิ่มเติม

วันนี้ ลูกลุงเยี่ยม ผู้ช่วยรับโทรศัพท์ให้พ่อ และมักไปวัดชายนาบ่อยๆ ได้พาน้าสาว ขี่รถเครื่องใหม่เอี่ยม พร้อมอาหารคาว หวาน ธูป เทียน น้ำผึ้ง นมไวตามิ้ลค์ ซองปัจจัยไปวัด เพื่อถวายภัตตาหาร สังฆทาน และกราบขอเมตตาให้หลวงพ่อช่วยเจิมรถเป็นสิริมงคล ไปถึงเป็นเวลาที่พระ เณร เริ่มจะฉันเช้าแล้ว ส่วนหลวงพ่อยังรับประเคนอยู่ จึงได้ประเคนเครื่องไทยธรรมทั้งหมด หลวงพ่อกล่าวว่า "เออ ดีๆ ถวายสังฆทาน ไม่จน"
เรียนถามท่านว่า "วันนี้หลวงพ่อมีกิจนิมนต์ที่ไหนไหมเจ้าคะ" "มี จะไปปทุมธานี มีอะไร" (ถ้าไม่มีกิจนิมนต์ที่ไหน ท่านจะบอกว่า วันนี้ไม่มีใครจ้าง)
"น้าสาวเขาออกรถใหม่ อยากขอเมตตาให้หลวงพ่อเจิมรถให้เจ้าค่ะ"
"เออ เช้านี่รึ ไหน รถอยู่ไหน มาๆ"
แล้วหลวงพ่อก็ลุกเดินอย่างกระฉับกระเฉงนำไปที่กุฏิของท่าน เพื่อไปหยิบแป้ง และทองคำเปลว บอกให้พวกเรา จูงรถขึ้นไปตรงหน้ากฏิ และให้หันหน้ารถไปทางทิศตะวันออก แล้วเริ่มพิธีเจิมรถทันที (ท่านทำอะไรรวดเร็วฉับไวมากๆ ดีว่าขออนุญาตถ่ายรูปไว้เป็นอนุสสติได้ทันการณ์) หลังจากบริกรรมคาถา เจิมแป้ง ปิดทองเรียบร้อยแล้ว
ท่านก็ไปนำขันน้ำมนต์มารดให้อีก รดรถเครื่องเสร็จแล้ว ก็หันมาเคาะหัวโยมทั้งสองคนละสองโป๊ก เน้นๆ หนักแน่น
สาธุ สาธุ สาธุ สังโฆ อัปมาโณ

เรื่องที่น่าสลดสังเวช!!

เนื่องด้วยลูกลุงเยี่ยมไปทำธุระที่ กทม. เดือนละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2-3 วัน เมื่อเริ่มทำเว็บบล็อกเกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัด รวมถึงเป็นสื่อกลางจัดหาด้วย จึงได้ไปเยี่ยมชมร้านวัตถุมงคลของรุ่นน้องคนหนึ่งแถวลาดพร้าว ได้นำตะกรุด และวัตถุมงคลอื่นๆ ไปให้น้องๆ ชมดู น้องบอกว่า ร้านโน้น มีตะกรุดของหลวงพ่อตัด ไม่แพงมาก (ดอกละ 700 บาท) เราก็เดินไปดู...โอ้ว ซาร่า!!! ดู ดู๊ ดู ดูเธอทำ... ตะกรุดในตู้นั้น เป็นแบบเนื้อตะกั่ว 3 นิ้ว จารนอก (ด้านในไม่เห็น และไม่ได้ถาม) มีโค้ตเลียนแบบโค้ตเรียง ว.ช.น. รุ่นแรก แต่ โค้ตมีปัญหา! ดูปราดเดียวแบบมือใหม่หัดขับ ก็ทะแม่งๆ เมื่องัดตัวอย่างโค้ตของเราออกมาดู ก็ชัด ว่า...
แหม...ทำไปด๊ายยยย ช่างไม่กลัวบาปกรรมกันน้อ มนุษยชาติ!



คลิกที่รูป ลองไปศึกษาเรื่องโค้ตกันได้ตามที่ลูกลุงเยี่ยมไปขอข้อมูลท่านผู้ใหญ่มา

ดังนั้น ใครจะเช่าหานอกวัด ขอให้ศึกษาให้ดี ให้ได้ของแท้จากคนที่ไว้วางใจได้
ขอให้โชคดีทุกท่าน

ไปเที่ยวชมวัดเขากระจิว วัดที่หลวงพ่อตัดอุปสมบท

วัดบรรพตาวาส หรือวัดเขากระจิว อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เป็นวัดที่หลวงพ่อตัด ปวโร อุปสมบท ในสมัยที่หลวงพ่อทอง เป็นเจ้าอาวาส

วัดนี้อยู่ใน อ.ท่ายาง สมัยโบราณเป็นบ้านป่าดงดอน แต่วัดนี้ไม่ธรรมดา เพราะพระเถระผู้มาริเริ่มตั้งวัด เป็นพระสงฆ์ที่มาจาก วัดราชบพิธฯ (วัดหลวง) จากกรุงเทพฯ มหานคร ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทีเดียว พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 4 เป็นผู้ให้กำเนิดคณะธรรมยุต ดังนั้น วัดนี้จึงถือเป็นต้นสายธรรมยุตวัดหนึ่ง
ถือได้อีกว่า หลวงพ่อตัดท่านสืบสายคณะธรรมยุตแบบเดิมแท้สมัย ร.4 เลยนะ

<< คลิก

พระเมตตาของหลวงพ่อตัด ภาค 2





เมื่อเดือนที่แล้ว น้องสาวกับแม่ไปธุระที่อำเภอแต่เช้า ต้องผ่านวัดชายนา ขากลับมาเล่าให้ฟังด้วยความตื่นเต้นว่า "ฮู๊ย ที่วัดชายนามีอะไรกันไม่รู้ คนเต็มเลย เห็นหลวงพ่อด้วย มีคนถ่ายรูปกันใหญ่"ปรากฎว่า ไปถามพี่ๆ ลูกศิษย์หลวงพ่อ เขาบอกว่า หลวงพ่อบริจาครถยนต์ให้สายตรวจ ป้อมตำรวจ ที่อยู่หน้าวัดนั่นเอง สังกัด สภ.อ. ท่ายาง ถือเป็นพระเมตตาที่หลวงพ่อเผื่อแผ่ให้ เพราะตำรวจ (ดีๆ) เป็นคนของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เท่ากับว่าหลวงพ่อทำการนี้เพื่อประโยชน์แห่งสาธารณชน

น้องเขย ที่เป็นตำรวจอยู่ในเขตติดต่อกับที่ตั้งวัดชายนา เคยเป็นตัวแทนนาย เข้าไปขอเมตตาหลวงพ่อ ขอตะกรุดไปแจกให้นายตำรวจ หลวงพ่อบอกว่า "เอาเท่าไหร่" น้องเขยตอบว่า "นายขอ 100 ดอกครับ" แล้วหลวงพ่อก็จัดให้ทันที โดยไม่สนใจว่าเขาจะทำบุญหรือไม่ ทำเท่าไหร่ ปรากฎว่า น้องเขยได้ทำบุญไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเงินเพียง 20% ของราคาปกติ (ตำรวจผู้น้อย ก็เงินน้อยๆ)

วันก่อนเข้าไปกราบท่าน ถามท่านเกี่ยวกับ น้ำมูตรดอง ที่พระฉันเป็นยา หลวงพ่อเมตตาอธิบายถึงวิธีการดองน้ำมูตร (คือฉี่นั่นเอง) กับลูกสมอ และน้ำผึ้ง แล้วนำไปตากแดด เราบอกว่า ไม่เคยเห็นลูกสมอ ท่านบอกทันทีว่าที่วัดมี ตรงข้างโบสถ์ ไปเก็บเอาสิ "ตายล่ะ ยายนี่ ไม่รู้จักลูกสมอ" ว่าแล้วก็เรียกพระ (เอ...หรือจะเป็นคุณเณรก็ไม่แน่ใจ) บอกว่าให้พายายนี่ไปเก็บสมอที เราต้องบอกหลวงพ่อว่า ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ โยมจะเดินไปดูเอง รบกวนพระ เกรงใจท่าน (บาปกรรมไหมนั่น) แต่หลวงพ่อก็ให้พระที่เดินผ่านมา พาไปเก็บจนได้ เลยไปเก็บ และถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกด้วย สิ่งนี้ถือเป็น วัตถุมงคล พูลผลทวี สำหรับเรา
เพราะลูกสมอดียิ่งกว่ายาผีบอกใดๆ เป็นถึงยา "พระพุทธเจ้าบอก"


๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๐

ข่าวด่วน! เหตุเกิดวันนี้ ที่วัดชายนา




พอดีวันนี้ เราออกไปธุระที่ตัวอำเภอ แล้วคิดว่าขากลับจะแวะวัด มีคนให้ไปเปลี่ยนวัตถุมงคลให้ เราก็แบ่งปัจจัยไปซื้อธูป เทียน และไวตามิลค์ จะเอาไปถวายหลวงพ่อ ตามความตั้งใจเดิมที่คิดทำการนี้ ปรากฎว่า ก่อนจะเลี้ยวซ้ายจากถนนเพชรเกษม เข้าไปทางวัด (และทางบ้าน) เห็นรถทัวร์คันหนึ่ง ทำท่าจะถอยหลัง มาตรงทางเลี้ยว
ข้างรถบ่งบอกว่า เป็นรถทัวร์เชียงราย ยังบอกกับแม่ว่า "อย่าบอกนะ ว่าคันนี้จะไปวัดชายนา"
ปรากฎว่าใช่จริงๆ พอเราเลี้ยวซ้าย รถทัวร์ก็ถอยมา แล้วเลี้ยวตาม พอไปถึงบริเวณหน้าวัด ก็พบว่า ไม่ใช่มีรถทัวร์เพียงคันเดียวเสียแล้ว มี 3 คัน ที่กำลังถอยเข้า ถอยออก จัดระเบียบกันอยู่ที่หน้าวัด เห็นคุณยายคนหนึ่ง จูงจักรยาน เนื้อตัวเปื้อนโคลนเพราะออกมาจากในนา เห็นพวกรถทัวร์ ยายก็ทำหน้าตื่นๆ ถ้าเป็นปกติ คนเยอะๆ แบบนี้ เราคงไม่เข้าไป แต่วันนี้ รับปากต้องเข้าไปเปลี่ยนของให้เขา และถวายของแด่หลวงพ่อด้วย จึงเลี้ยวเข้าวัดไป เห็นรถทัวร์จอดอยู่ในวัดอีก 3 คัน! และผู้คนมากมายเป็นร้อย เดินไปมากันขวักไขว่ โดยเฉพาะตรงที่หลวงพ่อรับแขก คนออกันแน่นไปหมด บ้างก็ส่งเสียงพูดคุย บ้างก็ถ่ายรูปกันใหญ่ (คนแน่นจนคงไม่มีใครมองเห็นป้ายห้ามถ่ายรูป) ใจคิดว่า หลวงพ่อจะอยู่ไหมหนอ คนเยอะ แลดูวุ่นวายขนาดนี้ ท่านจะโปรด หรือว่าท่านจะหลบ! ปรากฎว่า พอแทรกคนเข้าไปได้ ก็พบว่าหลวงพ่อกำลังรดน้ำมนต์ให้ญาตโยมผู้มาจากที่ไกลอย่างแข็งแกร่ง
หลวงพ่ออายุ 76 แล้ว แต่ยืนถือขันรดน้ำมนต์ให้คนมากมายอย่างกระฉับกระเฉง ใจเราก็สงสารหลวงพ่อจับใจ ปากท่านก็กล่าวว่า "มึงจะมากันทำไม หา!" แต่มือท่านก็รดน้ำมนต์ตลอดเวลา เห็นหัวหน้าทัวร์ กล่าวกับลูกทัวร์ว่า "ไม่ต้องตกใจนะฮะ" คงหมายถึง บางคนอาจจะไม่คุ้นกับ "ลีลา" ของหลวงพ่อ สักพัก เห็นหลวงพ่อไปนั่งที่เก้าอี้ตรงมุม เพื่อรดน้ำมนต์ต่อ (ท่านคงจะเหนื่อยกระมัง) เราก็ตัดสินใจเบียดคนเข้าไปถวายของ เรียนท่านว่า "โยมไม่รู้ว่าวันนี้คนเยอะเจ้าค่ะ โยมพาแม่มาทำบุญ" ท่านก็ทักเราแบบเดิม "มาอีกแล้วเรอะ อีนี่ เอาขงของมาทำบุญทำไม หึ! จะดีอะไร" เราก็ยิ้ม (ท่านพูดแบบนี้เสมอ ทำนองว่าเปลืองเงินเปลืองทอง) ตอนถวายไวตามิลค์ 1 โหล เกรงว่าท่านจะหนัก ก็เรียนท่านว่า "หนักนะเจ้าคะหลวงพ่อ" (คิดว่าจะให้ท่านแตะๆ ของ แล้วเราจะนำไปเก็บให้ท่านเอง) แต่ท่านก็รับเอง แล้วยกไปวางโต๊ะข้างๆ "ไม่หนก ไม่หนักหรอก" ท่านว่า
เราก็ถามท่านอีก "วันนี้แขกเยอะ หลวงพ่อเหนื่อยไหมเจ้าคะ" ท่านก็ตอบว่า "ไม่เหนื่อยหรอก แต่รำคาญ!" ซึ่งท่านก็พูดท่ามกลางญาตโยมเยอะแยะนั่นแหละ
นี่แหละ สไตล์ของท่าน ปากท่านว่าแบบนั้น แต่ท่านก็เมตตารดน้ำมนต์ และเคาะหัวโยมดังปั้กๆๆ แบบจริงจัง หนักแน่น ญาติโยมผู้มาจากแดนไกลเหล่านั้นเขาก็ต่างชื่นใจ แย้มยิ้มกันเป็นแถว ตรงที่หลวงพ่อนั่งรดน้ำมนต์นั้น ที่พื้นเปียกแฉะไปหมด องค์หลวงพ่อก็เปียก เท้าท่านก็เปียก อากาศเย็นๆ ฝกตกโปรยปราย ท่านคงจะหนาวนะ แม่สะกิดยิกๆ ให้รีบถอยออกมา เพราะคนเยอะจริงๆ แต่เราหลบฉากไปข้างๆ ท่าน ขอผ้าจากน้าฯ ลูกศิษย์หลวงพ่อ นำมาเช็ดพื้นตรงเท้าท่าน ท่านบอกว่า "ไม่ต้องชกเช็ดหรอก เดี๋ยวมันก็เปียกอีก"
เราจึงหยุดมือ เรียนท่านว่า "หลวงพ่อเปียกหมดแล้วเจ้าค่ะ" ท่านก็ว่า "ช่างมันเถอะ" แล้วก็รดน้ำมนต์ต่อ
เราจึงฉากถอยออกมา เบียดผู้คนไปเปลี่ยนวัตถุมงคล ซึ่งคนก็แออัดหนาแน่น แย่งกันบูชาจนพวกน้าฯ ที่ดูแลอยู่ มึนไปเลย โดยเฉพาะคุณตา 2 ท่าน ที่ดูแลบาตรตะกรุด คนรุมท่านจนไม่มีอากาศหายใจ
สาธุๆๆ สังโฆ อัปมาโณ

๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๐

บิ๊กเซอร์ไพรส์!!!


หลังจากที่ลูกลุงเยี่ยมเปิดเว็บบล็อกนี้มาเกือบสองเดือน ก็มีผู้สนใจโทรมาสอบถามและพูดคุยกันเกี่ยวกับหลวงพ่อตัดหลายราย บางราย เราก็เปรยกับเขาว่า "บางคนเขาก็มองไม่ค่อยดีค่ะพี่" ผู้ศรัทธาเหล่านั้นต่างพูดให้กำลังใจ และบอกว่าขอบคุณที่เป็นสื่อกลางให้ เพราะเขาเหล่านั้นศรัทธาหลวงพ่อตัดจริงๆ แต่อยู่ไกล ไม่สะดวกเดินทางมาบูชาที่วัดเอง บางคนบอกว่า "ผมไม่ซีเรียสเรื่องเงิน แต่ผมไม่มีเวลามาเลย แล้วก็อยากหาคนที่ไว้ใจได้จริงๆ" บางคนอยู่ภาคใต้ เหนือ อีสาน แม้แต่ภาคกลางเองก็มี นับเป็นเรื่องที่ลูกลุงเยี่ยมประหลาดใจและตื้นตันมากๆ ค่ะ
ที่พิเศษเซอร์ไพร์สสุดๆ เกิดขึ้นเมื่อประมาณเที่ยงวันนี้เอง โดยพี่สุรเชษฐ์ กทม. สั่งวัตถุมงคลไว้ พอได้รับก็เมล์มาแจ้ง แล้วบอกว่า โอนเงินเพิ่มมาอีก 1,000 บาท เพื่อขอให้ลูกลุงเยี่ยมนำไปถวายหลวงพ่ออีกต่างหากค่ะ โอ้ว...บิ๊กเซอร์ไพร์ค่ะ ใครเข้ามาอ่าน ก็โมทนาร่วมกับคุณสุรเชษฐ์ได้ค่ะ สาธุๆๆ
ตอนเที่ยงกว่าๆ ลูกลุงเยี่ยมก็รีบนำปัจจัยใส่ซอง เขียนชื่อ นามสกุล เจ้าของ บอกว่า "น้อมถวายทำบุญทุกอย่างกับหลวงพ่อตัด 1,000 บาท" ปรากฎว่า วันนี้มีหมอบีบ (คือหมอนวดแผนไทย) มาบีบนวดหลวงพ่อ ต้องรออีกประมาณ 2 ชั่วโมง ลูกลุงเยี่ยมจึงกลับบ้านก่อน กะว่าตอนเย็นจะไปใหม่ จะได้ถวายด้วยตนเอง (ได้หน้าหน่อยๆ ^^) พอตอนเย็น ก่อนหลวงพ่อลงโบสถ์ก็ไปอีก เอาซองปัจจัยวางไว้บนหนังสือธรรมะอีก 2 เล่มไปถวายหลวงพ่อ ท่านเห็นหน้าก็อมยิ้ม บอกว่า "รู้แล้วๆ" เรากราบท่านเสร็จ ก็เรียนท่านว่า "มีคนให้หนูมาเปลี่ยนวัตถุมงคลที่วัดให้ แล้วเขาก็ทำบุญเพิ่มมาต่างหากอีก 1,000 ถวายหลวงพ่อเจ้าค่ะ" ท่านรับหนังสือไปเปิดๆ ดู และคุยถึงเรื่องหนังสือก่อน จากนั้นก็อ่านหน้าซอง แล้วก็ร้องว่า "โห ทำบุญตั้งพันเลยเรอะ...แล้วจะเอาอะไร" ท่านบอกให้เราหยิบซองหย่อนลงไปในบาตร เราบอกว่า "ไม่ได้เอาอะไรเจ้าค่ะ...สุดแท้แต่หลวงพ่อจะเมตตาเจ้าค่ะ เขียนอักขระให้เขาไหมคะ บอกว่าหลวงพ่อโมทนานะจ๊ะ ก็ได้เจ้าค่ะ" ท่านหัวเราะ แล้วท่านก็เดินไปที่บาตรใส่ตะกรุด 3 นิ้ว แล้วหยิบเป็นกำใส่ถุง เรารีบบอก เกรงหลวงพ่อจะเข้าใจว่า คนฝากให้มาเปลี่ยนอีก "หลวงพ่อเจ้าคะ ซองนี้เขาถวายหลวงพ่อค่ะ ไม่ได้เปลี่ยนอะไร ไม่ได้หวังอะไรตอบแทนเจ้าค่ะ" ท่านก็ว่าไม่ได้หรอก ต้องตอบแทนเขา
เขาทำบุญตั้งพัน หยิบตะกรุดดอกใหญ่ แล้วก็มาหยิบตะกรุด 1.5 นิ้ว อีกเป็นกำๆ ใส่ถุงก๊อปแก๊ป มายื่นให้เรารับไว้ เราก็เลยต้องรับไว้ ท่านบอกเป็นปริศนาว่า "เอามาต่อ" จากนั้นสนทนากับท่านเรื่องโน้นนี้อีกครู่ ท่านก็ลงโบสถ์ เราก็กราบลากลับบ้านด้วยความอิ่มเอมใจ
พี่สุรเซษฐ์ทราบแล้วเปลี่ยน! จะให้จัดส่งไปที่อยู่เดิมหรือเปล่าคะ?