๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
นี่ลายเซ็นข้าฯ "พระครูบวรกิจโกศล"
เนื่องจากลูกลุงเยี่ยมมีอาชีพหลักทำมาหากินกับคอมพิวเตอร์ คือทำงานออกแบบสิ่งพิมพ์อยู่แล้ว เมื่อไปกราบหลวงพ่อตัดบ่อยๆ จึงอยากทำอะไรที่เป็นฝีมือตนเองถวายหลวงพ่อ ครั้นจะร้อยมาลัย ทำอาหารคาวหวานก็จนปัญญา แหะๆ ภาพถ่าย - ลายเซ็นท่าน จึงผุดขึ้นมาแจ่มอยู่ในหัว ว่าแล้วลูกลุงเยี่ยมก็ตัดต่อภาพหลวงพ่อขนาดบูชาปี 49 กับลายมือที่หลวงพ่อจารด้านหลังภาพให้น้องเขย นำมาจัดวางรวมกันอยู่ด้านหน้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ตอนแรกไม่ทราบว่าอักขระที่หลวงพ่อจารนั้น อ่านว่าอะไร และมีความหมายอย่างไร การนำมาจัดวางและตัดต่อใหม่ เหมาะสมหรือไม่ เมื่อทำภาพเสร็จ จึงทำตัวอย่างไปให้หลวงพ่อพิจารณาก่อน กราบเรียนท่านว่า "โยมทำงานด้านนี้อยู่แล้ว เลยทำภาพหลวงพ่อมาถวายเจ้าค่ะ"
"เฮอะ จะเอามาถวายทำมั้ย...มันต้องใช้เงินนะนั่นน่ะ" "ไม่แพงเจ้าค่ะ โยมทำมาเป็นตัวอย่างให้หลวงพ่อดูก่อน ว่าเหมาะสมไหม" "เออ...เอาเล็กๆ ดีกว่า ขนาดนี้ๆ เขาจะเอาไปเลี่ยมห้อยคอกัน" หลวงพ่อเมตตาแนะให้ และหยิบภาพถ่ายเล็กๆ รูปท่าน ที่วัดในกรุงเทพฯ จัดพิมพ์ถวายมาให้เราดูเป็นตัวอย่าง 1 ใบ "หลวงพ่อเจ้าคะ นี่หลวงพ่อเขียนว่าอย่างไรเจ้าคะ" "นะโม พุทธายะ" หลวงพ่อตอบพร้อมชี้มือที่ด้านบนภาพ "แล้วข้างล่างนี่ละเจ้าคะ" "นั่นลายเซ็นข้า" "พระครูบวรกิจโกศลหรือเจ้าคะ" ลูกลุงเยี่ยมเดา เพราะเห็นว่าตัวอักษรเรียงยาว ถ้าท่านเซ็นว่า "ตัด" ก็คงสั้นกว่านี้ ^^ หลวงพ่อก็พยักหน้ารับว่าใช่
เวลาต่อมา เพื่อนคนเหนือเจ้าเก่าทราบเรื่อง จึงรีบเสนอตัวเป็นเจ้าภาพอัดภาพชุดนี้ถวาย 2,000 ใบ พร้อมใส่ซองพลาสติกให้ซะเรียบร้อย โดยมีส่วนเกินจำนวนหนึ่งหลักร้อยใบ พวกเราจะขอเมตตาท่านขอกลับมาแบ่งเพื่อนๆ เพื่อนคนเหนือนี้อ่านอักขระขอมด้านบนอีกบรรทัด ซึ่งหลวงพ่อไม่ได้บอกไว้ คือแถวที่ 3 น่ะ อ่านว่า "ปวโร"...อันเป็นฉายาของหลวงพ่อนั่นเอง
วันนี้ ได้ฤกษ์งามยามดี ลูกลุงเยี่ยมถือถุงภาพถ่ายทั้งหมด ไปถวายหลวงพ่อที่วัดแล้ว คนเยอะแยะแต่เช้า เพราะมีคณะญาติโยมจะมาทอดผ้าป่าด้วย พอเห็นลูกลุงเยี่ยม หลวงพ่อก็ทักเหมือนเดิม "เอ้า มาทำไม" ^^ แล้วท่านก็ลุกจากเก้าอี้มานั่งตรงที่ท่านรับแขกประจำ พร้อมหยิบแว่นตาดำมาสวม (ท่านยังมีอาการเจ็บตาอยู่) เรากราบท่านแล้ว จึงค่อยกราบเรียนท่าน "โยมเอารูปหลวงพ่อมาถวายแล้วเจ้าค่ะ ถุงนี้ 2,000 ใบ โยมถวายเจ้าค่ะ ถุงน้อยนี้ โยมขอกลับมาแจกเพื่อนๆ เจ้าค่ะ" หลวงพ่อเปรยว่า "ตั้ง 2,000 ใบ จะแจกหมดเร้อ" ลูกศิษย์หลวงพ่อที่เป็นนายตำรวจบอกว่า "จะไม่พอแจกสิครับหลวงพ่อ" หลวงพ่อก็หัวเราะน้อยๆ "เอ้อๆ พูดผิดไป จะพอแจกเร้อ เอิ้กๆ มันเสียเงินนะเนี่ย เอามาถวายทำมั้ย" "เพื่อนโยมทำมาถวายเจ้าค่ะ เขาจะเอาทรัพย์...ภายใน อิอิ" "เอ้อๆ จะเอาทรัพย์ภายในเรอะ ฮึ จะเอาไปทำไม" แหะๆ เราหมดมุก จนปัญญาที่จะตอบหลวงพ่อ เพราะหลวงพ่อเคยสอนเพียงว่า ถ้าใครเขาถาม ว่ามาวัดทำไม เสียเวลาทำมาหากิน ให้บอกเขาไปว่า "มาเอาทรัพย์ภายใน" ส่วนจะเอาไปทำไม หลวงพ่อยังไม่ได้สอน เราเลยตอบไม่ถูก
หลวงพ่อเมตตาสวดมนต์เสกภาพถ่ายชุดนี้ นานทีเดียว (สวดออกเสียง แต่ลูกลุงเยี่ยมไม่ทราบว่าเป็นคาถาอะไร)
แล้วท่านก็โยนถุงภาพถ่ายถุงน้อยให้ลูกลุงเยี่ยม ส่วนอีก 2,000 ใบ ท่านเปิดซองหยิบมาพิจารณาใกล้ชิด พลิกหน้าพลิกหลัง แล้วก็บอกว่า "นี่จะเอาไปตอกก่อนดีกว่า" "ตอกทำไมเจ้าคะ" "เอ้า ก็ตอก จะได้รู้ว่าออกไปจากที่นี่อ่ะสิ" แล้วท่านก็หยิบภาพทั้งหมดออกจากถุง ยื่นให้คุณตาบาตรตะกรุดไปดำเนินการต่อ แล้วท่านก็คืนถุงกระดาษมีหูหิ้วให้เรา "เอ้า กระเป๋านี่เอาคืนไป" ^^ มานึกตอนหลัง ว่าเราคงไม่ได้เรียนท่านว่า ถวายทั้งถุงด้วย ท่านเลยคืนให้ หลวงพ่อจะใช้ของทุกอย่างด้วยประโยชน์สูง ประหยัดสุด เคยเห็นท่านนำริบบิ้น หรือเชือก ที่มากับห่อของซึ่งคนเขาถวาย เก็บมารวมๆ ไว้ใช้ประโยชน์ต่อไป
ลูกลุงเยี่ยมไม่ทราบว่า ภาพ 2,000 ใบที่ถวายไปนั้น หลวงพ่อจะแจกตอนไหน เมื่อไหร่ และจะมีสัญญลักษณ์อะไรจากวัด
แต่ตอนนี้ ลูกลุงเยี่ยมมีความยินดีจะแจ้งให้ผู้มีอุปการคุณทุกท่านทราบว่า ภาพส่วนที่ได้รับกลับมา (หลวงพ่อเสกแล้ว) ก็จัดส่งไปให้ทุกท่าน ที่เรามีที่อยู่แล้วค่ะ ^^
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)